Last updated: 11 ธ.ค. 2568 | 85 จำนวนผู้เข้าชม |
คุณสร้างบ้านที่ทนทานได้… แต่คุณสร้างบ้านที่ “เย็น” ได้จริงหรือ?
ในยุคที่ค่าไฟแพงขึ้นทุกปี และอุณหภูมิภายนอกทะลุ 40°C ผนังบ้านไม่ใช่แค่โครงสร้างที่ “ปิดพื้นที่” อีกต่อไป แต่เป็นด่านสำคัญที่สุดในการป้องกันความร้อน และช่วยควบคุมการใช้พลังงานภายในบ้าน การเลือกวัสดุที่ใช้ทำผนังจึงไม่ใช่แค่เรื่องความแข็งแรงเพียงอย่างเดียว แต่คือการลงทุนเพื่อความเย็นสบาย ประหยัดค่าไฟ และคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดอายุบ้าน
บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจตัวชี้วัดสำคัญด้านพลังงานของวัสดุผนัง และเจาะลึกว่าเหตุใด อิฐมวลเบา Smart Block G4 จึงเป็นวัสดุผนังที่ผ่านเกณฑ์จนได้รับฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 จากกระทรวงพลังงาน
ในการออกแบบอาคารยุคใหม่ “ผนัง” คือหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้พลังงานของอาคารมากที่สุด โดยเฉพาะการทำให้อาคาร เย็นเร็ว–ไม่อมความร้อน–ใช้พลังงานทำความเย็นน้อยลง

จากข้อมูลของกระทรวงพลังงานชี้ว่า การใช้พลังงานกว่า 15.1% ถูกใช้ไปกับอาคาร/ที่อยู่อาศัย และภายในอาคารสำนักงานกว่า 65% ของพลังงานถูกใช้ไปกับระบบปรับอากาศ ดังนั้นการเลือกวัสดุผนังที่เป็น “ฉนวนกันความร้อนในตัว” จึงมีผลอย่างมหาศาลต่อการลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
การออกแบบผนังอาคารประหยัดพลังงานสำหรับ ผนังทึบ

ตารางแสดงการเปรียบเทียบค่าการประเมินแบบจำลองการถ่ายเทความร้อนรวมผนัง (OTTV) ของสำนักงาน/อาคาร พบว่า :
| ประเภทผนัง | ค่า OTTV (W/m²) | สรุปผล คุณสมบัติในการถ่ายเทความร้อน |
| ผนังก่ออิฐมอญ (แบบดั้งเดิม) | 45.9/42.8/24.8 | ปานกลาง |
| ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป | 52.9/52.0/31.6 | ร้อนมาก–ใช้พลังงานสูง |
| ผนังคอนกรีตอิฐมวลเบา | 23.0/19.1/10.9 | เย็นที่สุด–ประหยัดพลังงานสูงสุด ✔ |
เมื่อพูดถึง “บ้านเย็นและประหยัดค่าไฟ” ปัจจัยที่สำคัญที่สุดไม่ใช่แค่การเลือกแอร์ดี ๆ หรือฉนวนหลังคาเท่านั้น แต่ผนังบ้าน คือพื้นที่ที่รับความร้อนมากถึง 40–60% ของบ้านทั้งหมด ดังนั้นประสิทธิภาพของวัสดุผนังจึงมีผลโดยตรงต่ออุณหภูมิภายในบ้านและค่าไฟรายเดือน
การประเมิน "ผนังเย็น - ผนังร้อน" จำเป็นต้องวัดด้วยตัวเลขที่เป็นมาตรฐานสากล ได้แก่ :
R-Value (Thermal Resistance) – ค่าความต้านทานความร้อน
- ยิ่ง สูง = กันร้อนได้ดี
U-Value (Thermal Transmittance) – ค่าการถ่ายเทความร้อน
- ยิ่ง ต่ำ = ความร้อนผ่านผนังได้น้อย
ค่าทั้งสองนี้เป็นเกณฑ์สำคัญที่ใช้โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ในการพิจารณาฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 สำหรับวัสดุก่อสร้าง
ตารางเปรียบเทียบ R-Value / U-Value ของวัสดุผนังที่พบมากในตลาดประเทศไทย
วัสดุผนัง | R-Value | U-Value | ประสิทธิภาพการกันร้อน |
| อิฐมวลเบา | 0.55-0.85 m²·K/W | 1.18-1.54 m²·K/W | ดีที่สุด / ผ่านฉลากเบอร์ 5 |
| อิฐบล็อก | 0.30-0.45 m²·K/W | 1.80-2.50 m²·K/W | กันร้อนได้น้อย |
| อิฐมอญ | 0.25-0.40 m²·K/W | 2.50-4.00 m²·K/W | ร้อนมาก |
| ผนังสำเร็จรูปทั่วไป | 0.20-0.25 m²·K/W | 4.00-5.50 m²·K/W | ร้อนที่สุด |
ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานของอิฐมวลเบา ด้วยค่า R-Value ที่สูงถึง 2-4 เท่าของอิฐมอญ จึงถือเป็นวัสดุผนังที่เข้าเกณฑ์ "ผนังประหยัดพลังงาน" อย่างแท้จริง การเลือกใช้อิฐมวลเบาจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ชัดเจน 2 ประการคือ :
1. ลดการใช้พลังงาน : ความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในได้ยากขึ้น ทำให้บ้านเย็นได้แม้ในวันที่อากาศร้อนจัด ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศได้ถึง 30%
2. ความสบายในการอยู่อาศัย : อุณหภูมิภายในอาคารมีความเสถียรและเย็นสบายสม่ำเสมอ ไม่เกิดผนังร้อนสะสมแม้ในวันที่ไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ
การเลือกใช้อิฐมวลเบา สมาร์ทบล็อค G4 ที่ผ่านการรับรองฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 จากกระทรวงพลังงาน จึงช่วยให้บ้านเย็น อยู่สบาย ประหยัดค่าไฟ และได้บ้านที่แข็งแรง ทนทาน กันเสียงและกันความร้อนได้ดีอีกด้วย
